เมื่อ Johnny Cash ร้อง Hurt: บทสรุปชีวิตผ่านบทเพลง


Music Collection



ด้วยบทบาท “บุรุษชุดดำ” Johnny Cash ถ่ายทอดความจริงของชีวิตมานับไม่ถ้วน แต่ผลงานที่สรุปเส้นทางทั้งหมดของเขากลับเป็นเพลง Hurt บทเพลงที่ทั้งโลกจดจำในฐานะลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเขา



จาก Industrial สู่ Country: จุดตัดอันเหลือเชื่อของเพลง Hurt




ท่ามกลางความแตกต่างสุดขั้ว การที่ Johnny Cash หยิบ Hurt มาถ่ายทอดใหม่ถือเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดเดาได้มาก่อน



เพลง Hurt ในเวอร์ชันแรกเริ่ม




ต้นฉบับ Hurt จากวง Nine Inch Nails เต็มไปด้วยอารมณ์หนักแน่น ซาวด์อิเล็กทรอนิกส์ และความมืดมนที่ลึกซึ้ง


ความร่วมมือกับ Rick Rubin



ช่วงนั้น Johnny Cash วัย 70 ปี ทำงานอัลบั้มคัฟเวอร์ชุด American Recordings กับโปรดิวเซอร์ระดับตำนาน Rick Rubin ผู้ผสมโลกดนตรีหลากหลายตั้งแต่ Jay-Z, Black Sabbath จนถึง Slipknot



ความรู้สึกแรกของผู้แต่งเพลง Hurt




Reznor ยอมรับว่า “ดีใจแต่ก็กลัว” เพราะไม่แน่ใจว่าเพลงอินดัสเทรียลอย่าง Hurt จะถูกตีความใหม่ได้อย่างเหมาะสม



การตัดสินใจที่ดูเป็นไปไม่ได้ครั้งนี้ ได้นำไปสู่การสร้างมิวสิกวิดีโอที่กลายเป็นผลงานชิ้นเอกให้โลกต้องจดจำ



เบื้องหลัง MV Hurt ที่กลายเป็นตำนาน




เบื้องหลัง MV Hurt มีทั้งความท้าทาย ความเจ็บปวด และความจริง ซึ่งทำให้มันกลายเป็นผลงานชั้นเอก




Mark Romanek: ผู้สรรค์สร้างภาพแห่งความจริง




ทันทีที่ได้ยินเพลง Hurt ผู้กำกับ Romanek ก็รู้ว่าเป็นโอกาสที่จะสร้างงานชิ้นมาสเตอร์พีซ




ถ่ายทำภายใต้เวลาที่ไล่ล่า




ทีมงานไม่มีทางเลือกนอกจากเร่งถ่าย เนื่องจากสุขภาพของ Cash กำลังทรุดโทรม





  • สภาพร่างกายไม่เอื้อ: ทุกครั้งที่ Cash อ่อนแรง ทีมงานต้องหยุดพักถ่ายเป็นระยะ



  • ความทรมานจากอากาศเย็น: สภาพอากาศทำให้ Cash แทบทนไม่ไหว


  • กรอบเวลาที่จำกัด: ปัญหาสุขภาพของ Cash ทำให้ระยะเวลาที่สามารถใช้ถ่ายทำได้จริงลดลงเหลือเพียงไม่กี่วันเท่านั้น




ฉากหลังที่บอกเล่าเรื่องราวของ Cash




ความพังของสถานที่ถ่ายทำ กลายเป็นสัญลักษณ์สะท้อนการเดินทางของ Cash ได้ดีที่สุด




ผู้กำกับกล่าวว่า “ผมรู้ทันทีว่าสภาพที่พังทลายนี้คือสิ่งที่ซื่อสัตย์กับเรื่องราวของ Johnny มากที่สุด เช่นเดียวกับที่เขาเคยซื่อสัตย์ผ่าน กีตาร์โปร่ง คู่ใจของเขา”




Romanek มองเห็นว่า สภาพพิพิธภัณฑ์ที่ผุพังคือสัญลักษณ์ของเรื่องราวที่แท้จริง ทั้งความรุ่งโรจน์ ความเสื่อมถอย และความทรงจำอันเจ็บปวด



สัญลักษณ์และความสะเทือนใจ



มิวสิกวิดีโอ Hurt ไม่เพียงแต่ประกอบด้วยภาพการแสดงของ Cash เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยภาพเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งถ่ายทอดอารมณ์ให้กับผู้ชมได้อย่างชัดเจน




ภาพที่เล่าเรื่องแทนคำพูดทั้งหมด





  • โต๊ะอาหารหรูแต่ไร้ผู้คน นอกจาก Cash ที่นั่งอย่างโดดเดี่ยว



  • ภาพวัยหนุ่มของ Cash ถูกตัดกับภาพปัจจุบันที่เหน็ดเหนื่อย


  • ภาพแผ่นเสียงแพลตตินัมที่แตกร้าว วางทิ้งไว้ในพิพิธภัณฑ์ที่ถูกลืม



  • ภาพฝาเปียโนค่อย ๆ ทิ้งตัวลงคือการปิดม่านชีวิตของ Cash




ผลตอบรับที่เปลี่ยนความคิดของศิลปินรุ่นเดียวกัน



ผลงานชิ้นนี้สะเทือนใจคนในวงการเป็นอย่างมาก แม้แต่ Rick Rubin โปรดิวเซอร์ผู้ปลุกปั้นเพลงนี้ขึ้นมา ยังยอมรับว่า "เขาร้องไห้ในครั้งแรกที่ได้ดู" ขณะที่ปฏิกิริยาของ Trent Reznor ศิลปินเจ้าของเพลงต้นฉบับนั้นยิ่งตอกย้ำถึงพลังของมัน เขาเล่าถึงตอนที่ดูวิดีโอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ Zack de la Rocha (จากวง Rage Against the Machine) ว่า "เมื่อวิดีโอจบลง... บรรยากาศในสตูดิโอนั้นมีแต่ความเงียบงัน... จนผมเกือบจะร้องไห้"




เขาเปรียบเทียบความรู้สึกว่า เหมือนเห็นภาพของคนรักที่จากไปนานแล้ว เป็นความเศร้าที่ลึกมาก จนเขาต้องยอมมอบเพลงนี้ให้กับ Cash




โศกนาฏกรรมที่ตามมาหลังเพลง Hurt




สิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังทำให้หลายคนขนลุก เพราะมันสอดคล้องกับเนื้อหา Hurt ราวกับเป็นลางบอกเหตุ






  1. ภรรยาเสียชีวิต: June Carter Cash จากไป 3 เดือนหลังปิดกล้อง



  2. Johnny สิ้นใจ: เขาเสียชีวิตไม่ถึงปีหลัง MV และพักเคียงข้าง June


  3. ไฟไหม้บ้าน "House of Cash": ในอีก 4 ปีต่อมา บ้านที่ใช้เป็นฉากหลังอันทรงพลังในมิวสิกวิดีโอ ซึ่งเป็นที่ที่ Cash ใช้ชีวิตอยู่ถึง 30 ปี ก็ถูกไฟไหม้จนวอดวายทั้งหมด



มรดกทางดนตรีที่เป็นนิรันดร์






ผลงานนี้ทำหน้าที่เป็นเสมือน “คำบอกลา” ที่ Cash ทิ้งไว้ให้โลก ความเปราะบางของเขาในวิดีโอยิ่งทำให้ Hurt กลายเป็นงานศิลป์ที่สะเทือนใจที่สุดชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์ดนตรี





นี่คือหนึ่งในผลงานที่ยืนยันว่าศิลปะไม่ขึ้นกับยุคสมัย เพราะ Hurt ในเวอร์ชัน Cash ได้กลายเป็นตำนานที่คงอยู่เหนือกาลเวลา





แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม





Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *